แม้ใกล้ถึงวันสุดท้ายของยุคเฮเซ ซึ่งเป็นยุคของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ 125 แห่งญี่ปุ่น ในวันที่ 30 เมษายน 2562 นี้แล้ว แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นยังคงรัก ผูกพัน และมีความสุขกับยุคสมัยนี้เป็นอย่างมาก หลายคนพยายามเก็บตวงความสุขของช่วงเวลานี้ไว้ให้ได้มากที่สุด
อย่างที่เห็นได้ชัดล่าสุดคือมีการอัดอากาศของยุคเฮเซเก็บไว้ในกระป๋อง เพื่อจำหน่ายเป็นของที่ระลึกเก็บไว้ในความทรงจำ นับว่าเป็นไอเดียของที่ระลึกที่น่ารักและน่าประทับใจมาก ทั้งนี้เพราะปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงเป็นที่รักของพสกนิกร ทรงเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นยุคใหม่ และทรงเป็นผู้สร้างสันติสุขให้กับยุคเฮเซในตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติบนบัลลังก์เบญจมาศ
โดยตลอดห้วงเวลาแห่งการครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระองค์ทรงพยายามจะทำให้ช่องว่างระหว่างราชวงศ์กับประชาชนลดลงด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมหลากหลายโครงการ รวมทั้งทรงดำเนินกิจกรรมด้านสวัสดิการสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการทั่วประเทศญี่ปุ่น ยามเสด็จฯเยี่ยมราษฎร ก็ทรงมีพระราชดำรัสด้วยถ้อยคำธรรมดา และมักจะประทับบนพื้นระดับเดียวกับประชาชน โดยมีสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงอยู่เคียงข้าง
ทุกครั้งที่ญี่ปุ่นประสบกับโศกนาฏกรรมและวิบัติภัยทางธรรมชาติ ทั้งสองพระองค์จะเสด็จฯไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจผู้ประสบภัยด้วยพระองค์เองเสมอ และที่น่าคารวะที่สุดคือการที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงออกมายอมรับความผิดของพระราชวงศ์ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก ด้วยการรับสั่งแสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียของทุกฝ่าย ทั้งหมดนี้ช่วยให้สถานะของสถาบันกษัตริย์ในสายตาประชาชนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากมาย
โดยเมื่อปี 2557 ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 80 พรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ พระองค์ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้สื่อมวลชนชาวญี่ปุ่นเข้าเฝ้าฯ พร้อมพระราชทานสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ซึ่งพระราชดำรัสตอนหนึ่งสะท้อนถึงการที่ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์อิมพิเรียลยุคใหม่ได้อย่างดีเลิศ
“…มีเหตุการณ์ที่ประทับใจข้าพเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้คือ เช้าวันหนึ่ง หลังการผ่าตัดของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินอยู่ในเมืองฮายามา มีชายคนหนึ่งหยุดรถริมถนน แล้ววิ่งข้ามถนน เดินตรงเข้ามาหาข้าพเจ้า พร้อมกับพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า พวกเราดีใจมากที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จากนั้นเขาก็วิ่งข้ามถนนกลับไปที่รถ
“คำพูดสั้นๆ ของเขาสร้างกำลังใจได้อย่างมหาศาล และทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขล้นอย่างไม่น่าเชื่อ ที่มีคนห่วงใยองค์จักรพรรดิ ซึ่งตลอดเวลากว่า 50 ปี ที่ข้าพเข้าพเจ้ายืนหยัดเคียงข้างพระองค์ ข้าพเจ้าสัมผัสได้เสมอถึงน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงให้การสนับสนุนและชี้แนะข้าพเจ้าทุกอย่าง ทำให้ข้าพเจ้าสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้…”
และนี่คือเหตุผลว่าทำไม สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ จึงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนชาวญี่ปุ่น และทรงเป็นผู้สร้างสันติสุขให้กับแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ผิดเพี้ยนตามชื่อยุค “เฮเซ” ที่แปลว่า “สันติสุขทุกแห่งหน” อย่างแท้จริง
เรื่อง : Ghibli
ที่ปรึกษาด้านข้อมูล : Kentaro Shikano, Advisor Japanese Market Tourism Authority of Thailand
ภาพ : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่
บทพิสูจน์รัก “จักรพรรดินีมิชิโกะ” ซินเดอเรลล่าญี่ปุ่น ชีวิตในวังที่โรยด้วยขวากหนาม
เบื้องลึกรักหวานในสนามเทนนิส จักรพรรดิ-จักรพรรดินีญี่ปุ่น สู้ฟันฝ่าม่านประเพณี
กษัตริย์นักมีนวิทยา จักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงเผยแพร่งานวิจัยสุดท้ายก่อนสิ้นยุคเฮเซ
จักรพรรดิอากิฮิโตะ-จักรพรรดินีมิชิโกะ เสด็จชมดอกซากุระสุดท้ายแห่งรัชศกเฮเซ
ญี่ปุ่นประกาศชื่อรัชศก “เรวะ” ต้อนรับว่าที่สมเด็จพระจักรพรรดิองค์ใหม่ แห่งราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ
วันคล้ายวันประสูติปีที่ 85 จักรพรรดิอากิฮิโตะทรงตรัส “ขอบใจประชาชน” ก่อนเตรียมสละราชบัลลังก์
ว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่ “เจ้าชายนารุฮิโตะ” ลูกไม้ใต้ต้นแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น
รักแท้จนแก่เฒ่า “จักรพรรดิอากิฮิโตะ-จักรพรรดินีมิชิโกะ” จากสนามเทนนิสสู่ราชบัลลังก์
83 พรรษา สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ สามัญชนคนแรกที่ได้เป็นควีนแห่งประเทศญี่ปุ่น
ครั้งแรกในรอบ 200 ปี สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น จะทรงสละราชสมบัติ